บริษัท ฮอริษอน พลัส จํากัด

ประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล ตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

 

บริษัท ฮอริษอน พลัส จํากัด (“บริษัท” หรือ “ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” หรือ “บริษัท ฮอริษอน พลัส จำกัด”) ได้ตระหนักและให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้รับบริการ ผู้ให้บริการ ผู้มาติดต่อ ตัวแทนจากทางบริษัทและบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง บริษัทจึงได้จัดทำนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) ฉบับนี้ (“นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท”) เพื่อชี้แจงรายละเอียดวิธีปฏิบัติของบริษัทต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งเป็นผู้รับบริการของบริษัท

 

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฉบับนี้ใช้บังคับแก่ผู้รับบริการ ผู้ให้บริการ ผู้มาติดต่อของบริษัท ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาทุกท่าน ตัวแทนกรรมการ ตัวแทน ลูกจ้าง พนักงาน และผู้ค้ำประกันของผู้รับบริการของบริษัท รวมถึงบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องของผู้รับบริการของบริษัท (“ท่าน”) โดยท่านจะต้องอ่านส่วนประกอบเพิ่มเติมจากข้อตกลง ข้อกำหนด เงื่อนไขการใช้บริการ รวมถึงเอกสารและ/หรือสัญญาอื่นใดระหว่างท่านและบริษัท  ทั้งนี้ คำนิยาม ข้อกำหนด หรือเงื่อนไข ที่อยู่ในข้อกำหนด เงื่อนไขการใช้บริการ เอกสารหรือสัญญาอื่นใดที่เกี่ยวข้องดังกล่าวนั้น ให้นำมาใช้กับนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฉบับนี้ด้วยเท่าที่จะไม่เป็นการขัดหรือแย้งกับนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฉบับนี้

 

ในการนี้ บริษัทขอให้ท่านได้โปรดอ่านและทำความเข้าใจนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฉบับนี้ก่อนลงนามรับทราบ โดยนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

 

  1. คำนิยาม

กฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และที่จะได้มีการแก้ไขเพิ่มเติม และให้หมายความรวมถึงกฎ ประกาศ ระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่งซึ่งออกภายใต้กฎหมายฉบับดังกล่าว

ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดา ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ และ/หรือ ให้มีความหมายตามที่ระบุไว้ภายใต้กฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

“บริษัท” และหรือ “ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล”  หมายถึง บริษัท ฮอริษอน พลัส จํากัด ซึ่งเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ตรวจสอบ ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ตรวจสอบ ประมวลผล ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของบริษัท ทั้งนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงข้อสงสัย ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลไม่ถือว่าเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

  1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม

บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ ประมวลผล และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่างๆ ของท่านดังต่อไปนี้ เท่าที่จำเป็นและเหมาะสมต่อการดำเนินงานของบริษัทตามวัตถุประสงค์ที่ปรากฏในข้อ 4 (วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ ประมวลผล และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล)

2.1 ข้อมูลที่บ่งชี้ตัวตน เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ตามบัตรประชาชน สถานที่สะดวกสำหรับการติดต่อ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล์ วันเดือนปีเกิด ตำแหน่งที่อยู่ที่ระบุได้จากระบบติดตามทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น

2.2 ข้อมูลส่วนตัว เช่น อาชีพ สถานะการสมรส แหล่งที่มาของเงินได้ สถานะทางการเงิน เป็นต้น

2.3 ข้อมูลการเงินและการทำธุรกรรม เช่น ประวัติการทำธุรกรรมระหว่างบริษัทกับท่าน และ/หรือ ระหว่างบริษัทกับนิติบุคคลหรือบุคคลที่ท่านเป็นตัวแทน เลขบัญชีธนาคาร ข้อมูลการชำระเงิน รายละเอียดของบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต รายละเอียดการจ่ายเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-payment) หมายเลขธุรกรรม ข้อมูลเพื่อการชำระภาษี เป็นต้น

2.4 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว คือ ข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดเป็นการเฉพาะให้เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวซึ่งบริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ ประมวลผล และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวเมื่อท่านได้ให้ความยินยอมโดยชัดแจ้งแก่บริษัท หรือในกรณีจำเป็นที่กฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอนุญาตไว้ โดยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ได้แก่ เชื้อชาติ ประวัติอาชญากรรม และข้อมูลอื่นใดที่กฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

2.5 เอกสารที่แสดงถึงข้อมูลที่ระบุไว้ในข้อ 2.1 – 2.4 เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาบัตรประจำตัวข้าราชการ สำเนาใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ หรือหนังสือเดินทาง หนังสือรับรองรายได้หรือเอกสารการชำระภาษี สำเนาบัญชีธนาคาร รายงานเครดิตบูโร เป็นต้น

  1. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากสองช่องทาง (ไม่ว่าด้วยวิธีการใดๆ เช่น การให้ข้อมูลด้วยตนเอง ณ ที่ทำการบริษัท การให้ข้อมูลทางโทรศัพท์ การโต้ตอบทางจดหมาย อีเมล์ หรือช่องทางการติดต่อสื่อสารอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ เอกสารอันเป็นลายลักษณ์อักษร หรือรูปแบบอื่นใด) ดังนี้

3.1 บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง โดยบริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อท่าน ได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคล

ของท่านแก่บริษัทด้วยตนเองระหว่างขั้นตอนการให้บริการ ดังนี้

  • ขั้นตอนการสมัครเข้าใช้ หรือ ให้ บริการกับ บริษัท หรือระหว่างการดำเนินการเพื่อเข้าทำนิติกรรม สัญญา ข้อตกลงใดๆ กับบริษัท ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การเข้าทำสัญญาซื้อขายสินค้าและบริการ หรือสัญญาอื่นๆ กับบริษัท
  • ขั้นตอนระหว่างและหลังการให้บริการของบริษัท
  • ขั้นตอนการติดต่อสื่อสาร การยื่นคำร้องขอใช้สิทธิต่างๆ หรือการยื่นข้อร้องเรียนกับบริษัท
  • การทำแบบสอบถามต่างๆ ด้วยความสมัครใจของท่าน

3.2 บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบุคคลที่สาม ซึ่งท่านได้รับทราบถึงสิทธิ หน้าที่ และความจำเป็นของบุคคลที่สามเหล่านั้นและ/หรือได้ให้ความยินยอมแก่บุคคลที่สามเหล่านั้น ในการเปิดเผย ถ่ายโอน และ/หรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บริษัท โดยบุคคลที่สามเหล่านี้ อาจรวมไปถึง แต่ไม่จำกัดเฉพาะแต่เพียง

  • บริษัทและ/หรือนิติบุคคลที่ท่านเป็นผู้แทน กรรมการ ตัวแทน ลูกจ้าง พนักงาน หรือผู้ค้ำประกัน ซึ่งท่านได้ตกลงกับหรือได้รับมอบหมายจากบุคคลดังกล่าวให้ติดต่อประสานงาน หรือดำเนินการต่างๆ กับบริษัทอันเกี่ยวเนื่องกับสัญญา นิติกรรม ธุรกรรม หรือกิจกรรมอื่นใดที่บุคคลดังกล่าวมีอยู่กับหรือจะมีกับทางบริษัทในอนาคต
  • บริษัทใน เครือ ฮอริษอน พลัส จํากัด, บริษัทใน เครือ อรุณพลัส จำกัด และ บริษัทใน เครือ ปตท. จำกัด (มหาชน)ทั้งในราชอาณาจักรไทย และนอกราชอาณาจักรไทย
  • หน่วยงานราชการ สถาบันการเงิน ธนาคาร บริษัทประกันภัย บริษัทผู้ให้ข้อมูลเครดิต นิติบุคคล และ/หรือ บุคคลผู้ให้บริการข้อมูลโดยทั่วไป
  • บุคคลอื่นใดที่ขอรับบริการจากบริษัท

 

  1. วัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทอาจเก็บรวบรวม ประมวลผล และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับมาจากท่านโดยตรง หรือจากบุคคลที่สามดังกล่าว เพื่อวัตถุประสงค์ประการใดๆ หรือทุกประการดังต่อไปนี้

4.1 เพื่อตรวจสอบยืนยันตัวตน ประเมิน ตรวจสอบ ประมวลผล และวิเคราะห์คุณสมบัติต่างๆ เพื่อการพิจารณาของบริษัทสำหรับการ

ให้บริการของบริษัท และเข้าทำนิติกรรม สัญญา ข้อตกลงใดๆ กับท่าน นิติบุคคลหรือบุคคลที่ท่านเป็นตัวแทน และ/หรือบุคคลที่สามที่

ขอรับบริการจากบริษัท

4.2 เพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญา และ/หรือ เป็นผู้ลงนามแทนนิติบุคคลหรือบุคคลที่ท่านเป็นตัวแทนซึ่งเป็นคู่สัญญาหรือ

ผู้รับบริการของบริษัท ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การดำเนินการเพื่อจัดเก็บค่าบริการ ค่าใช้จ่าย และหนี้สินอื่นๆ ภายใต้สัญญา การให้

ความช่วยเหลือใดๆ ในกรณีมีข้อขัดข้องใดๆ อันเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามสัญญา ตลอดจนการต่อระยะเวลา การเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือ

ยกเลิกสัญญา

4.3 เพื่อดำเนินการบังคับให้เป็นไปตามสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญา และ/หรือ เป็นผู้ลงนามแทนนิติบุคคลหรือบุคคลที่ท่านเป็นตัวแทนซึ่ง

เป็นคู่สัญญาหรือผู้รับบริการของบริษัท หรือดำเนินการให้เป็นไปตามสิทธิของบริษัท รวมถึงการรักษาสิทธิ และ/หรือ ประโยชน์โดยชอบ

ด้วยกฎหมายของบริษัท อาทิ การดำเนินกระบวนการทางกฎหมายต่างๆ

4.4 เพื่อดำเนินการตามที่จำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือบุคคลอื่นใดเท่าที่สมเหตุสมผลและโดยชอบด้วย

กฎหมายภายใต้กฎหมายที่บังคับใช้ เช่น เพื่อการดำเนินการจัดการความเสี่ยง การบรรเทาและป้องกันอาชญากรรม ป้องกันการฉ้อโกง

เพื่อวัตถุประสงค์ด้านความปลอดภัยและความมั่นคง เป็นต้น

4.5 เพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามสัญญา การให้บริการ การแจ้งข้อมูลและข่าวสารที่เกี่ยวกับเรื่องเหล่านั้น

รวมถึงแจ้งการเปลี่ยนแปลงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท (หากมี)

4.6 เพื่อใช้ในการวิเคราะห์เพื่อพัฒนา ปรับปรุง และ/หรือ ควบคุมคุณภาพของการให้บริการของบริษัท ป้องกันหรือแก้ไขปัญหาการ

ให้บริการแก่ผู้รับบริการของบริษัท ตลอดจนลูกค้าหรือผู้รับบริการท่านอื่นๆ ของบริษัท ให้สามารถดำเนินการไปได้อย่างเหมาะสม และ

ได้รับความพึงพอใจในการบริการของบริษัทอย่างสูงสุด

4.7 เพื่อเปิดเผยให้กับ บริษัท ฮอริษอน พลัส จํากัด เพื่อพัฒนาการให้บริการ และการประกอบธุรกิจของ บริษัท ฮอริษอน พลัส จํากัดให้มี

ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์สำหรับท่าน ผู้รับบริการของบริษัท และ/หรือ นิติบุคคลหรือบุคคลที่ท่านเป็นตัวแทน ตลอดจนลูกค้า

หรือผู้รับบริการท่านอื่นๆ ของบริษัท

4.8 เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายและดำเนินการให้เป็นไปตามหน้าที่ของบริษัทตามกฎหมายทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท

ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง กฎหมายเกี่ยวกับภาษี กฎหมายการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เครดิตบูโร การบัญชี กฎหมาย

อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ และกฎหมายอาชญากรรมทางไซเบอร์ เป็นต้น

4.9 เพื่อเปิดเผยให้แก่หน่วยงานรัฐ และ/หรือ เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานรัฐ รวมถึงคำสั่งของศาล เพื่อปฏิบัติตามคำสั่ง ข้อบังคับ ข้อกำหนด

หรือกฎหมายที่บริษัทจะต้องปฏิบัติตามโดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

4.10 เพื่อป้องกัน หรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย สุขภาพของบุคคลใดๆ

 

บริษัทมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ หากบริษัทไม่ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่าน บริษัทอาจไม่สามารถให้บริการบางประการแก่ท่าน และ/หรือ นิติบุคคลหรือบุคคลที่ท่านเป็นตัวแทนได้ และอาจทำให้ท่าน และ/หรือ นิติบุคคลหรือบุคคลที่ท่านเป็นตัวแทน ไม่ได้รับความสะดวกในการรับบริการบางประการจากบริษัท และบริษัทขอสงวนสิทธิในการพิจารณาเข้าทำนิติกรรม สัญญา หรือข้อตกลงใดๆ กับท่าน และ/หรือ นิติบุคคลหรือบุคคลที่ท่านเป็นตัวแทน

อนึ่ง บริษัทอาจเก็บรวบรวม หรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน  เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากที่ระบุไว้ข้างต้น โดยในกรณีดังกล่าว บริษัทจะแจ้งรายละเอียดให้ท่านทราบก่อนหรือในเวลาที่ทำการเก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูล

 

  1. วัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องอาศัยความยินยอมของท่าน

นอกจากวัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ระบุไว้ในข้อ 4 (วัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล) ข้างต้น บริษัทอาจใช้ ประมวลผล และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านสำหรับวัตถุประสงค์อื่นๆ เมื่อบริษัทได้รับความยินยอมจากท่าน หากท่านมีความประสงค์ที่จะยินยอมให้บริษัทใช้ ประมวลผล และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ประการใดๆ หรือทั้งหมดดังต่อไปนี้

 

เพื่อให้บริษัทเสนอการให้บริการหรือสินค้าของบริษัทเป็นการเพิ่มเติม การดำเนินการด้านการตลาด การส่งเสริมการขาย การโฆษณาและประชาสัมพันธ์ของบริษัท และ/หรือ บริษัท ในกลุ่ม ฮอริษอน พลัส จํากัดแก่ท่านในฐานะผู้รับบริการของบริษัท และ/หรือ ในฐานะที่ท่านเป็นพนักงาน กรรมการ ผู้แทน หรือตัวแทนของนิติบุคคลหรือบุคคลอื่นซึ่งเป็นผู้รับบริการของบริษัท

 

เปิดเผยให้แก่บริษัทในเครือ ฮอริษอน พลัส จํากัด บุคคล และ/หรือนิติบุคคลอื่นใดซึ่งเป็นบุคคลภายนอกที่บริษัทได้คัดเลือกไว้ซึ่งอาจอยู่ในประเทศไทยหรือในต่างประเทศซึ่งเป็นประเทศที่มีมาตรฐานความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลเพียงพอตามที่กฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้กำหนดไว้โดยบุคคลเหล่านี้อาจเสนอการให้บริการ หรือสินค้า การดำเนินการด้านการตลาด การส่งเสริมการขาย การโฆษณาและประชาสัมพันธ์ซึ่งบริษัทเชื่อว่าท่านอาจสนใจให้แก่ท่านในฐานะผู้รับบริการของบริษัท และ/หรือ ในฐานะที่ท่านเป็นพนักงาน กรรมการ ผู้แทน หรือตัวแทนของนิติบุคคลหรือบุคคลอื่นซึ่งเป็นผู้รับบริการของบริษัท

 

นอกจากนี้ ท่านยินยอมให้บริษัทเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวเพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ระบุไว้ในนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ทั้งนี้ ท่านรับทราบและเข้าใจว่าท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมที่ให้ไว้แก่บริษัทเมื่อใดก็ได้ โดยสามารถใช้สิทธิดังกล่าวด้วยการติดต่อมายังบริษัทเป็นลายลักษณ์อักษรตามที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์และหรืออีเมล์ตามที่ระบุไว้ในข้อ 12 ของหนังสือฉบับนี้ โดยท่านเข้าใจและยอมรับว่าการไม่ให้ความยินยอมหรือการเพิกถอนการให้ความยินยอมบางประการหรือทุกประการอาจมีผลกระทบต่อประสบการณ์ในการรับบริการจากบริษัท และการได้รับข้อเสนอรวมถึงสิทธิประโยชน์บางประการจากทางบริษัทและบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง แต่จะไม่มีผลกระทบต่อการที่บริษัทจะให้บริการตามสัญญาที่ท่านหรือนิติบุคคลที่ท่านเป็นผู้แทนเป็นคู่สัญญาอยู่กับบริษัทแต่อย่างใด

 

  1. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกเก็บรักษาไว้โดยบริษัทซึ่งเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล แต่บริษัทอาจส่งมอบข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ให้แก่กลุ่มต่างๆ ดังต่อไปนี้ เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ระบุไว้ข้อ 4 (วัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล) ข้างต้น

6.1 บริษัทใน เครือ ฮอริษอน พลัส จํากัด, บริษัทใน เครือ อรุณ พลัส จำกัด, บริษัทใน เครือ ลิน ยิน อินเตอร์เนชันแนล อินเวสเม้นท์ส คอมพะนี ลิมิเต็ด และ บริษัทใน เครือ ปตท. จำกัด (มหาชน)

6.2 ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ตัวแทน หรือผู้ให้บริการภายนอก ที่บริษัททำงานร่วมกันเพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่บริษัทมีหรือจะได้มีขึ้นกับผู้รับบริการของบริษัท หรือเพื่อให้บริการของบริษัทแก่ผู้รับบริการ เช่น การจัดเตรียมและส่งเอกสารของบริษัทให้แก่ ผู้ให้บริการการจัดเก็บข้อมูล (Cloud Service Provider) เป็นต้น

6.3 หน่วยงานของรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีอำนาจ หน่วยงานเครดิตบูโร ตามที่บริษัทต้องปฏิบัติตามกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

6.4 บุคคลธรรมดา และ/หรือ นิติบุคคลใดๆ ตามที่บริษัทจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท อาทิ ผู้สอบบัญชี ที่ปรึกษา ทนายความ สถาบันการเงิน

 

บริษัทอาจมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวบริษัทจะปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้อง

 

  1. การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัททำการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนี้

7.1 เก็บรักษาข้อมูลในรูปแบบเอกสาร โดยใช้วัสดุและอุปกรณ์เพื่อการจัดเก็บเอกสารโดยเฉพาะ และมีระบบการจัดการเข้าถึงข้อมูลและความปลอดภัยที่เหมาะสมตามที่กฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้กำหนดไว้

7.2 เก็บรักษาข้อมูลในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ไฟล์ โดยจัดเก็บในระบบคอมพิวเตอร์ และมีระบบการจัดการเข้าถึงข้อมูลและความปลอดภัยที่เหมาะสมตามที่กฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้กำหนดไว้

 

  1. ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามระยะเวลาเท่าที่บริษัทเห็นว่าจำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่ได้เก็บรวบรวมตามที่ระบุไว้ในนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ เว้นแต่กรณีที่มีกฎหมายอื่นใดกำหนดบังคับไว้เป็นการเฉพาะซึ่งมีระยะเวลาที่นานกว่า

สำหรับกรณีที่บริษัทเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติตามสัญญาหรือบังคับให้เป็นไปตามสัญญาดังที่ระบุไว้ในข้อ 4.2 และ 4.3 (วัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล) บริษัทจะเก็บและรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตลอดระยะเวลาที่สัญญายังมีผลใช้บังคับและอาจต่อเนื่องไปจนครบระยะเวลา 10 ปี นับแต่วันที่ทำธุรกรรมครั้งสุดท้าย ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ระบุในข้อ 4.

 

  1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เก็บรวบรวมไว้ก่อนที่กฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ

สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ให้ไว้กับบริษัทก่อนวันที่กฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ ท่านรับทราบว่า บริษัทมีสิทธิเก็บรวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ผู้รับบริการของบริษัท บุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง และ/หรือ นิติบุคคลหรือบุคคลที่ท่านเป็นตัวแทนต่อไปได้ตามวัตถุประสงค์เดิมที่ท่านเคยได้ให้ความยินยอมไว้ ณ เวลาที่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ทั้งนี้ หากท่านประสงค์จะยกเลิกความยินยอมในการเก็บรวบรวม การใช้ และ/หรือ เปิดเผยโดยบริษัท สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว โปรดแจ้งให้บริษัททราบ โดยการเพิกถอนความยินยอมดังกล่าวให้ท่านอ้างอิงตามวิธีการที่ระบุไว้ในข้อ 11.1 (สิทธิในการถอนความยินยอม) ข้างท้ายนี้

 

  1. การแก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมในนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท

บริษัทขอสงวนสิทธิในการแก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมเนื้อหาและข้อความในนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฉบับนี้ ให้เป็นไปตามที่บริษัทเห็นว่าสมควร เหมาะสม หรือเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทจะดำเนินการแจ้งให้ท่านทราบถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทดังกล่าว

 

  1. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

เพื่อให้มั่นใจว่าท่านรับรู้ถึงสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทขอแจ้งแก่ท่านผู้มีฐานะเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลว่าท่านมีสิทธิดังต่อไปนี้ตามที่และเท่าที่ได้ระบุไว้ในกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

11.1 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม

สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ของท่านที่บริษัทใช้เพื่อวัตถุประสงค์ใดที่จะต้องได้รับความยินยอมจากท่าน ท่านอาจเพิกถอนความยินยอมที่ให้บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ ประมวลผล และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ โดยแจ้งให้บริษัททราบเป็นลายลักษณ์อักษร โดยบริษัทอาจขอทราบถึงเหตุผลแห่งการนั้น และจะดำเนินการตามคำขอของท่านภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมย่อมไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ ประมวลผล และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมโดยชอบก่อนหน้านี้

11.2 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูล

ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท หรือขอให้บริษัทเปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว

11.3 สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิขอให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ที่ถูกเก็บรวบรวมและเก็บรักษาไว้โดยบริษัทไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่น เว้นแต่ โดยสภาพทางเทคนิคไม่สามารถทำได้

11.4 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ประมวลผล และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในบางประเภทในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ประมวลผล และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง การศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ บริษัทจะเก็บรวบรวม ประมวลผล และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นต่อไปก็ต่อเมื่อบริษัทพิสูจน์ได้ว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปเพื่อเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญยิ่งกว่า หรือเป็นไปเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้ในขั้นตอนการดำเนินการตามกฎหมาย

11.5 สิทธิในการขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิขอลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในบางกรณี เช่น เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไม่มีความจำเป็นอีกต่อไปโดยแท้จริง เมื่อข้อมูลนั้นได้ถูกประมวลผลโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือไม่เป็นไปตามฐานโดยชอบด้วยกฎหมายซึ่งใช้เก็บรวบรวมข้อมูลนั้นอีกต่อไป

11.6 สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับหรือจำกัดการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่ได้ระบุไว้ในกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

11.7 สิทธิในการขอให้บริษัทดำเนินการทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทปรับปรุงแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วนได้เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ถูกเก็บรวบรวมและเก็บรักษาไว้โดยบริษัทมีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

11.8 สิทธิในการร้องเรียนตามกฎหมาย

หากท่านพบว่าบริษัทไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิตามกฎหมายที่จะยื่นคำร้องขอหรือร้องเรียนได้ที่ได้ที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 อาคารบี ชั้น 6-7 เลขที่ 120 ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210 ประเทศไทย หมายเลขโทรศัพท์ +662 142 2233

 

อนึ่ง สำหรับการใช้สิทธิต่างๆ ของท่านตามที่ได้ระบุไว้ในข้อ 11.1 ถึง 11.8 (สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล) ข้างต้น ท่านสามารถส่งคำร้องมายังบริษัทได้ตามช่องทางที่ระบุไว้ในข้อ 12 (ช่องทางการติดต่อ) ทั้งนี้ บริษัทอาจเรียกเก็บค่าใช้จ่ายตามความจำเป็นในการดำเนินการตามคำร้องขอดังกล่าวให้แก่ท่าน

 

  1. ช่องทางการติดต่อ

ในกรณีที่ท่านประสงค์จะใช้สิทธิต่างๆ ที่ได้ระบุไว้ใน ข้อ 11 (สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล) ข้างต้น หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ท่านสามารถติดต่อบริษัทได้ตามรายละเอียดด้านล่างนี้

 

ชื่อ: บริษัท ฮอริษอน พลัส จํากัด (HORIZON PLUS CO., LTD.)

สถานที่ติดต่อ: 199 อาคารเอส โอเอซิส ชั้น 17 ห้องเลขที่ 1709 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

ช่องทางการติดต่อ: เจ้าหน้าที่ประสานงานการคุ้มครองข้อมูล, โทรศัพท์: 02-021-8999 Email: DPO_PDPA@Horizonplus.co.th

__________________________________________

คำสั่ง แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล (DPO: Data Protection Officer)